ELDEN RING NIGHTREIGN ถือเป็นความท้าทายรูปแบบใหม่สำหรับค่าย Fromsoftware เมื่อทางค่ายฯ ต้องการจะนำเสนอเกม Souls-Like ในรูปแบบ Multiplayer ที่ผู้เล่นจะต้องช่วยกันสังหารมอนสเตอร์ ช่วยกันหาไอเทมและอาวุธต่าง ๆ เพื่ออัปเกรดตัวละครหรือส่งต่อแชร์ของให้กับเพื่อน ๆ ภายในทีม แล้วร่วมกันล้มบอสใหญ่ที่ปลายทาง
เนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องของ NIGHTREIGN จะเป็นเหตุการณ์ต่อจาก ELDEN RING ภาคหลักโดยตรง หลังสิ้นสุดสงคราม The Shattering ดินแดนมัชฌิมา บัญญัติ และกลุ่มต่าง ๆ ถูกโค่นล้มจนหมดสิ้น ทำให้เกิดการล่มสลาย ไร้การควบคุมจากคนใดคนหนึ่ง จึงทำให้ที่แห่งนี้ว่างเปล่าและเปิดโอกาสให้ภัยคุกคามครั้งใหม่ลุกล้ำเข้ามาพร้อมพลังความชั่วร้ายแห่งรัตติกาล ซึ่งมีผู้นำเป็นกลุ่ม Nightlord ที่มาเพื่อทำลายดินแดนมัชฌิมาแห่งนี้ให้สิ้นซาก เหล่า Nightfarer หรือนักล่ารัตติกาลจึงถูกเรียกตัวมาจากทั่วทุกแห่งหน โดยการเลือกของ Formless Master นักล่ารัตติกาลแต่ละคนจะมาจากต่างยุคต่างสมัยและมีเหตุผลในการต่อสู้ต่างกันออกไป เพื่อมาต่อต้านเหล่า Nightlord และปกป้องดินแดนมัชฌิมาเพื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยราชาแห่งรัตติกาล
ระบบการเล่น
ELDEN RING NIGHTREIGN มีรูปแบบเกมเพลย์ในการบังคับตัวละครเหมือนกับเกม ELDEN RING เกมหลัก แต่สิ่งที่ต่างกันออกไปคือผู้เล่นจะต้องเลือกด่านเพื่อเข้าเล่นในแต่ละรอบ โดยจะมีรูปแบบเป็น Multiplayer ปาร์ตี้ละ 3 คน และทุกรอบจะเป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของไอเทมของสวมใส่หรือการเก็บเลเวล ไม่เหมือนกับตัวเกมปกติที่จะให้เราเล่นเก็บเลเวลและดำเนินเกมไปข้างหน้าเรื่อย ๆ แต่ตัว NIGHTREIGN ก็ยังพอมีตัวช่วยอยู่บ้าง ทุก ๆ ครั้งที่เราเล่นจบหนึ่งรอบไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ทุกคนในทีมจะได้ Permanent Item หรือที่ภายในเกม เรียกว่าสมบัติตกทอด เพื่อนำมาอัปเกรด Passive Skill เสริมความสามารถของตัวละครและพัฒนาความแข็งแกร่งในด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยจะมีการแบ่งเป็นสีต่าง ๆ ถ้าสีไม่ตรงก็จะไม่สามารถใส่ของชิ้นนั้นได้ ทำให้การสร้างตัวละครจะมีความยาก แต่หลากหลายและสามารถนำไปใช้ได้กับทุกตัวละคร สำหรับตัวสมบัติตกทอดนั้นจะไม่ได้ช่วยในการเล่นมากนัก แต่เหมือนเป็นการเสริมคุณภาพชีวิตภายในเกมมากกว่า เช่น การบุกโจมตีทุกครั้ง อาวุธของเราจะกลายเป็นธาตุตามที่เราเลือกสมบัติตกทอดมา หรือเมื่อเราใช้ยา เพื่อน ๆ หรือผู้เล่นอื่นที่อยู่ในระยะจะได้รับผลของไอเทมนั้น ๆ ไปด้วย
กติกาการเล่นจะแบ่งเป็น 3 วันในเกม ในทุก ๆ วันความมืดจะไล่กลืนกินดินแดนตามเวลาที่ผ่านไป หรือภาษาพูดของเกมเมอร์ในเกม Battle Royale มักจะเรียกสิ่งนี้ว่าโดนวงบีบ ดังนั้นเราจึงมีเวลาที่จำกัดในการจะที่ฆ่าบอสเพื่อหาไอเทมหรือแวะไปยังจุดต่าง ๆ หาแร่ตีบวกอาวุธ เก็บเลเวล จึงต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดีเพื่อให้การเล่นในรอบนั้น ๆ ดีที่สุด ทั้งด้านเลเวลและอาวุธ โดยที่ปลายทางของแต่ละวันหรือวงบีบไปยังพื้นที่สุดท้าย จะมีบอสประจำวันให้เราสู้หากผู้เล่นทั้งหมดตายในจุดนี้ทีมจะโดนส่งกลับออกไปที่โต๊ะกลม ถือเป็นการแพ้รอบนั้นทันที แต่หากเราตายในพื้นที่ปกติก่อนวงบีบสุดท้าย เราจะเสียเลเวล 1 เลเวล แต่สามารถไปเอาคืนได้ในรูปแบบรูนโดยการไปเก็บในจุดที่เราตายหรือฆ่ามอนสเตอร์ตัวที่ฆ่าเราเพื่อเอาคืนได้ ในวันที่ 3 จะเป็นบอสสุดท้ายของด่านที่เราเลือกมา เมื่อเอาชนะบอสสุดท้ายได้ ทุกคนในทีมจะได้สมบัติตกทอดประจำตัวของบอสตัวนั้น ๆ เพื่ออัปเกรดตัวให้เก่งขึ้น ทำให้ในรอบถัด ๆ ไปจะเล่นเกมนี้ได้สบายขึ้นเรื่อย ๆ
ในส่วนไอเทม อาวุธ และเครื่องประดับต่าง ๆ จะใช้ระบบสุ่มความแรร์ ในบางครั้งเมื่อเราล้มมินิบอสหรือบอสได้ อาจจะได้ไอเท็มระดับอัปเกรดสูงสุดหรืออาจจะได้ระดับพิเศษที่ดีที่สุดมาเลย ระบบนี้ทำให้ทุกรอบที่ลงไปเล่นมีความท้าทายต่างกัน เครื่องประดับจะได้จากการตีมอนสเตอร์พิเศษที่เป็นแมลงจะเป็นการการันตีว่าได้แน่นอน แต่จะสุ่มว่าจะได้อะไร ในบางโอกาสเราจะเจอจุดที่เป็นเหมือนหลุมศพของผู้เล่นที่มาจากห้องอื่น เมื่อไปสำรวจศพพวกนั้นจะดรอปของที่ผู้เล่นคนนั้นมีออกมา ซึ่งในบางครั้งมันคือของที่ดีมาก ๆ หรืออาจจะไม่มีประโยชน์เลยก็เป็นไปได้ และเราสามารถแบ่งปันของพวกนั้นทั้งหมดกับสมาชิกภายในทีมเราได้
สรุป
ELDEN RING NIGHTREIGN มีระบบที่ทำออกมาได้ดีและสนุกมาก แต่น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นที่ต้องการเล่นคนเดียวหรือไม่มีกลุ่มเพื่อน และเกมจะบังคับเราออนไลน์ตลอดเวลาโดยไม่ได้สนใจว่าเราจะเล่นเกมนี้กี่คน แม้ว่าเกมจะมีระบบ Matchmaking ให้ แต่การสุ่มคนมาเล่นโดยที่ตัวเกมไม่มีระบบสื่อสารใด ๆ เลยภายในเกมทำให้ยากขึ้นอีก เราอาจจะไม่เข้าใจผู้เล่นอื่นเลยว่าจะไปไหนหรือต้องการทำอะไร เนื่องจากเกมต้องอาศัยทีมเวิร์ก การที่ต่างคนต่างเล่นและไม่เข้าใจกัน อาจทำให้ผู้เล่นบางคนเดินแยกออกจากกลุ่มไปและต่อสู้ยากขึ้นในทุกจุด ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะจบวันโดยที่แทบจะไม่ได้อะไรเลย เพราะทุกอย่างในเกมนี้ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ บอสตามทาง บอสประจำวัน ทั้งหมดถูกออกแบบมาสำหรับผู้เล่น 3 คน และสิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือเกมนี้ไม่มีระบบ Crossplay เพื่อเล่นข้ามเครื่องแบบเกมออนไลน์เกมอื่น ๆ
ในส่วนของ Performance ถือว่าอยู่ในระดับดี แต่การเล่นบน Playstation 5 Pro ก็ยังมีอาการเฟรมเรตตกให้เห็นอยู่เป็นช่วง ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ส่งผลต่อการเล่นภาพรวม แต่ก็สร้างความรำคาญได้ในบางโอกาส
ความสนุกในการเล่นกับเพื่อน ๆ ให้ 9/10 ทั้งทีมจะได้ระดมสมองช่วยกันคิดหาหนทางในการชนะ และช่วยเตือนเพื่อน ๆ ในเรื่องการโจมตีบางอย่างของบอส
สำหรับการเล่นคนเดียวและ Matchmaking ให้ 5/10 เพราะการที่เกมไม่มีระบบสื่อสาร ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างคนต่างเล่นบ่อยมากเกินไป การเล่นแต่ละรอบอาจเสียเวลามากเกินไป หรือผู้เล่นบางคนต้องการจะออกจากห้องเพื่อหนีผู้เล่นอื่นที่ไม่ถูกใจก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเกมนี้มีบทลงโทษสำหรับคนที่ออกห้องไปก่อนห้องจะจบ
ความยากของ ELDEN RING NIGHTREIGN ให้ 9/10 ถือว่าอยู่ในจุดที่ยากเกือบจะสุดของเกมค่ายนี้ เพราะบอสถูกออกแบบมาสำหรับผู้เล่น 3 คน และบอสแทบทุกตัวเก่งมากพอจะล้มนักล่ารัตติกาลทั้ง 3 คน ภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ELDEN RING NIGHTREIGN วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนแพลตฟอร์ม PlayStation4และ5, Xbox1, Xbox Series และ PC โดยรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ
ท้ายนี้ทีมงาน P4G ขอขอบคุณทาง Bandai Namco Entertainment สำหรับตัวเกมเพื่อการรีวิวมา ณ ที่นี่
รีวิวโดย TidGame of the Universe48 (แมวหิมะน้ำตาล)
0 ความคิดเห็น