6/recent/ticker-posts

รีวิว Assassin's Creed Mirage การพลิกบทบาทจากตำนานตัวร้ายกลายเป็นตัวเอก

 

หลังจากที่ตัวผมได้ยินว่าทาง Ubisoft จะได้มีการพัฒนาเกม Assassin's Creed Mirage ก็ได้ตามข่าวสารตัวเกมนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะนับได้ว่าเป็นแฟนตัวยงของซีรี่ส์นี้อีกคนหนึ่ง ซึ่งตามเล่นมาแทบทุกภาค สำหรับเรื่องราวของตัวเอกภาคนี้คือ บาซิม ซึ่งเป็นตัวร้ายและบอสตัวสุดท้ายของภาค Valhalla ซึ่งการนำตัวละครที่มีบทบาทเป็นตัวร้ายมาเป็นพระเอกของเกมภาคใหม่ก็เป็นสิ่งแรกที่ทำให้เกมนี้น่าสนใจขึ้น ในแง่มุมของเนื้อเรื่องว่าสุดท้ายแล้วบาซิมนั้นเติบโตมาและผ่านชีวิตมาแบบไหนและจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาที่เป็นโจรและสิ่งที่ทำให้เค้าได้กลายมาเป็นสมาชิก Assassin ผู้ที่ลุกขึ้นสู้เพื่ออิสรภาพกับกลุ่มเทมพลาออเดอร์ โดยเหตุการณ์ของเกมภาคนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 9 ณ กรุงแบกแดดซึ่งจะตรงกับช่วงอนาธิปไตยที่ธรรมราชที่ว่าด้วยความไม่มั่นคงภายในอย่างรุนแรงของอับราซิสควอลิฟาจากสถานการณ์การสืบทอดอำนาจอย่างดุเดือดของ kalifa 4 องค์ซึ่งกลายเป็นหุ่นเชิดในเงื้อมมือของกลุ่มทหารคู่แข่งคู่ทรงพลัง


ด้านของระบบเกมภายใน Assassin's Creed Mirage จะพาผู้เล่นย้อนกลับไปเป็นนักฆ่าในแบบฉบับของเกมภาคแรก ๆ อีกครั้ง สำหรับเกมเมอร์ที่เคยเล่นเกมซีรี่ส์นี้ในช่วงเวลาดังกล่าวก็จะเข้าใจภาพรวมของเกมได้เป็นอย่างดี ซึ่งบาซิมจะมาพร้อมกับสกิล Eagle Vision ที่ทำให้สามารถระบุพิกัดตำแหน่งของศัตรูรู้โลเคชั่นของต่างสิ่ง ๆ ภายในแผนที่ซึ่งภาคนี้มีความจำเป็นเป็นอย่างมาก รวมถึงภาคนี้ยังมีความสมจริงที่นกอินทรีของเราสามารถโดนโจมตีให้ตายได้ด้วย แล้วเมื่อผ่านเวลาไปซักระยะนึงสามารถกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม

นอกจากนี้ใครที่ชอบบุกเข้าไปโจมตีโดยตรงเหมือนหลายภาคที่ผ่านมา ก็ขอย้ำเลยว่าไม่สามารถเข้าไปต่อสู้โดยตรงได้แน่นอน เนื่องจากตัวเกมเน้นการลอบสังหารเป็นหลัก จึงออกแบบมาให้ตัวละครตายง่ายมาก รวมทั้งยังมีระบบความดี-เลว ที่ผู้เล่นสามารถไปล้วงกระเป๋าชาวบ้านเพื่อนำเหรียญมาใช้ และเมื่อคะแนนความเลวถึงจุดหนึ่งผู้เล่นก็จะโดนทหารตามล่า โดยจะต้องไปดึงแผ่นป้ายประกาศจับ หรือไปจ้าง Npc เพื่อลบล้างความผิดได้เช่นกัน นอกจากนี้เหรียญ ฯ ดังกล่าวยังสามารถนำไปใช้ในการทำ ภารกิจ หรือ เนื้อเรื่องย่อยต่าง ๆ ได้อีกด้วย

 
การอัปเดตตัวละครในภาคนี้ก็ยังคงเหมือนกับภาคก่อนหน้านี้อาวุธและชุดเกราะ ทุกชิ้นสามารถอัปเกรดได้ โดยการหาของมาจากการ ขโมย หรือการผ่าน ภารกิจต่าง ๆ 

บาซิมยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือต่าง ๆ ให้ใช้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นมีด หรือ ระเบิดควัน เป็นต้น


เกมนี้มีแผนที่ใหญ่พอสมควร แต่ส่วนมากจะอยู่แต่ในเมือง ไม่ค่อยมีสถาปัตยกรรม ให้เห็นสักเท่าไหร่ ส่วนนอกเมืองก็เป็น โซนทะเลทรายเสียมากกว่าจึงทำให้เราไม่เห็นอะไรมากไปกว่านี้แล้ว

Skill จะแบ่งออกเป็น สาม ประเภท 

  1. Pehantom  เป็นการท่าการโจมตีของตัวละคร และรวมทั้ง พิษด้วย
  2. Trickster จะเน้นไปเรื่องการ ขโมย ของ และเพิ่มขวดยาให้มีจำนวนมากขึ้นด้วย
  3. Predator เกี่ยวกับนกของเรา เพื่มการมองเห็น หรือ สามาล็อกเป้า ได้จำนวนหลาย ๆ ตัวได้
ข้อดีของเกม

ตัวเกมกลับมามี ระบบลอบเร้น ที่มากขึ้นกว่า ภาคก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเน้น Action มากกว่า ทำให้ตัวเกมมีความท้าทายมากขึ้นผู้เล่นได้วางแผนก่อนที่เข้าโจมตี เพราะไม่สามารถเข้าไปโจมตีโดยตรงได้อีกแล้ว และเพิ่มระบบที่ นก ของเรานั้นสามารถถูกโจมตีได้เพื่อเพิ่มความยากและความสมจริงเข้าไปอีก รวมถึงสภาพแวดล้อมฉากต่าง ๆ ทำได้สวยขึ้นและโมเดลตัวละครสมจริงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ข้อเสียของเกม

แม้ว่าตัวเกมเน้นระบบการลอบเร้น และมีอาวุธให้ใช้น้อยเกินไป ทำให้ลดทอนความสนุกในด้านการต่อสู้ลง รวมทั้ง action ของตัวละครก็เป็นจังหวะที่ไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร รวมถึง Skill ที่มีให้ใช้ค่อนข้างน้อย ซึ่งบางอย่างควรมีติดตัว ของตัวละครมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ยังคงบังคับให้เราอัปเพื่อเปิดการใช้งาน และยังพบ บั๊กในบางฉากเรื่องการที่ไม่สามารถพูดคุยกับ Npc ได้จนทำให้ต้องโหลด Save กลับมาเพื่อเล่นใหม่ (ข้อเสียของบั๊กดังกล่าวอาจมีการแก้ไขจากแพทช์ในอนาคต)

ทั้งนี้ตัวผู้รีวิวของเกมจึงขอให้คะแนนของ Assassin's Creed Mirage ไว้ที่ 9.1/10

***การให้คะแนน และความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้รีวิว 

ท้ายนี้ทาง P4G ขอบพระคุณทาง Ubisoft สำหรับการสนับสนุนเกม Assassin's Creed Mirage มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น