6/recent/ticker-posts

รีวิว Life is Strange: Double Exposure ข้ามมิติเวลาไขคดีฆาตกรรมปริศนา


Life is Strange: Double Exposure เป็นเกมรูปแบบ Interactive film (แนวเกมที่เล่นเหมือนดูภาพยนตร์ แต่ผู้เล่นจะสามารถบังคับตัวละครให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้ โดยจะสามารถเลือกตัวเลือกการตอบคำถามที่จะส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่องลำดับถัด ๆ ไป) ภาคต่อที่ค่อนข้างน่าสนใจมาก เพราะมีการนำตัวละครที่แฟน ๆ หลายคนชื่นชอบ อย่าง Maxine Caulfield หรือ Max ในวัยผู้ใหญ่ ที่หายไปถึง 9 ปี จาก โดยภาคล่าสุดของเธอกลับมาดำเนินเนื้อเรื่อง และเป็นการเล่าเรื่องต่อจาก Life is Strange ภาคแรก

ช่วงต้นเกม Max จะเดินทางมาที่ Caledon University ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานถ่ายภาพของเธอ พร้อมกับเพื่อน ๆ Safi และ Moses เพื่อมาถ่ายภาพฝนดาวตกกัน ภายหลัง Safi จะเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อนและหายตัวไป และหลังจากนั้นไม่นาน Max จะมาพบเธอเสียชีวิตอยู่ท่ามกลางหิมะ และ Max จะต้องใช้พลังเหนือธรรมชาติที่เธอมีเพื่อแก้ปมคดีฆาตกรรมปริศนาและตามหาตัวจริงของฆาตกรที่ฆ่าเพื่อนของเธอ


เกมเพลย์

เกมยังคงนำเสนอรูปแบบการเล่นเป็นแบบ Interactive ที่จะให้ผู้เล่นสามารถเดินสำรวจพื้นที่ภายในบริเวณต่าง ๆ เพื่อหาเบาะแส หลักฐาน และความเชื่อมโยงต่าง ๆ ในเหตุการณ์ในขณะนั้นได้และยังคงเป็นเกมแบบเลือกตัวเลือกเพื่อตอบคำถามเหมือนเกมแนวเดียวกันทั่ว ๆ ไป และการตอบคำถามจะส่งผลถึงเนื้อเรื่องลำดับถัด ๆ ไปอีกด้วย 

ตัวเกมยังเป็นแนว Supernatural หรือตัวเอกที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ซึ่งปกติแล้ว Max จะมีพลังในการย้อนเวลา แต่การกลับมาในครั้งนี้พลังที่เธอมีจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ทำให้ Max สามารถใช้พลังในการข้ามไทม์ไลน์ได้ โดยในอีกไทม์ไลน์เหตุการณ์บางอย่างอาจจะยังไม่เกิดขึ้นทำให้สภาพแวดล้อมหรือการกระทำต่าง ๆ ของตัวละครอื่นจะดูแปลกไปจากไทม์ไลน์หลัก และก็จะมีบางอย่างที่ในอีกไทม์ไลน์เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นแต่ในไทม์ไลน์หลักไม่ได้เกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นเลย

ในส่วนเกมเพลย์การข้ามไทม์ไลน์จะเป็นการหาทางเล่นต่อด้วยเช่นไทม์ไลน์หลักประตูบางที่ยังโดนปิดและล็อคไว้อยู่ แต่ในอีกไทม์ไลน์เราจะสามารถเข้าประตูนี้ได้เลย ทำให้ตัวเกมมีมิติในการเล่นที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงทำให้การเล่าเรื่อง การประติดประต่อเรื่องราวซับซ้อนขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อภาค Double Exposure เป็นชื่อเรียกของภาพซ้อนที่เกิดขึ้นเวลาถ่ายภาพ เปรียบได้กับการที่ Max ข้ามไปอีกไทม์ไลน์คือภาพซ้อนของมิติความเป็นจริงปัจจุบัน

แต่จุดที่สำคัญที่สุดของเกม Narrative คือความสัมพันธ์ของผู้เล่นและตัวละครหลักทั้ง 3 คน หากใครที่ได้เล่น Life is Strange ภาคล่าสุดที่มี Max เป็นตัวเอก จะทำให้คุณหวนคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ที่คุณเคยผ่านมาอีกครั้ง แต่ก็มีบางจุดที่ในเนื้อเรื่องไม่ค่อยสมเหตุสมผลว่าทำไมตัวละครนั้นถึงทำแบบนั้น รวมทั้งยังมีส่วนมีการหยิบยกขึ้นมาแต่กลับปล่อยทิ้งให้หายไปอีกด้วย แต่ต้องยอมรับว่าตัวละครใหม่ ๆ หลายตัวอย่างนักสืบที่พยายามจะไขคดีแล้วเข้ามาวุ่นวายกับ max ไม่เลิกหรือ จะเป็นสาว Bartender อย่าง Amanda ที่ Max แอบชอบ ก็ทำเนื้อเรื่องในส่วนตัวละครเหล่านี้ออกมาได้เป็นอย่างดี

อีกระบบหนึ่งที่มองดูว่าอาจจะมากเกินไปคือระบบ Social Media ของ Max ที่เราจะสามารถเข้าไปอ่านบทสนทนาของ Max กับตัวละครอื่น ๆ ได้แต่ด้วยการที่เราสามารถเดินทางข้ามไปมาระหว่างไทม์ไลน์ได้ทำให้ข้อความที่เราต้องอ่านก็มีมากเกินไป (ข้อความจากทั้ง 2 ไทม์ไลน์จะไม่เหมือนกัน) ข้อความนั้นจะเด้งขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ เกือบทุกฉาก ซึ่งเยอะมากเกินไป


กราฟิกและเสียง

กราฟิกอยู่ในระดับที่ดูดีมากสำหรับเกมประเภทนี้และใช้ Unreal Engine 5 ในการพัฒนาตัวเกมทั้งหมด สีหน้าการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ทำออกมาได้ดีกว่าภาคก่อน ๆ มาก แสง เงา สวยและมีระบบ HDR เพื่อช่วยให้แสงและเงามีน้ำหนักที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จุดที่น่าชื่นชมที่สุดของเกมนี้คือการเลือกใช้สี ในแต่ละพื้นที่จะมีการเลือกใช้สีที่ค่อนข้างเด่นชัดและเหมาะกับพื้นที่ ทำให้สีสันต่าง ๆ ภายในเกมนี้ดูสดและสบายตาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกมซีรี่ส์นี้อยู่แล้ว ภายในเกมจะมีตัวเลือกให้ผู้เล่นอยู่ 2 โหมด คือเลือก Quality เพื่อเพิ่มระดับความชัดเจนพื้นผิวต่าง ๆ รวมถึง Resolution และ Performance เพื่อให้ตัวเกมรันที่ 60fps ตลอดเวลาแลกกับ Resolution ที่ต่ำลงนิดหน่อย และไม่ส่งผลกระทบต่อการเล่นไปดูไปแต่ถ้าหยุดเกมแล้วจับสังเกต ก็จะเห็นว่าภาพแตกไปพอสมควร


ในส่วนเสียงของเกมนี้ทำออกมาได้ดี มีการใช้เพลงช่วยประกอบในบางฉากหรือจุดที่สำคัญ ทำให้ดนตรีประกอบของเกมนี้ดีมาก และในส่วนของการพากย์ก็ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ให้อารมณ์เหมือนดูซีรี่ส์ต่างประเทศดีดีสักเรื่องเลย ที่สำคัญได้คุณ Hannah Telle กลับมาพากย์เป็น Max ซึ่งเธอเคยพากย์เป็น Max ใน Life is Strange ภาคแรกอีกด้วย


สรุป

Life is Strange: Double Exposure เป็นการกลับมาที่ดีมาก ๆ ของ Max เป็นตัวละครที่คนรักซีรี่ส์นี้จะคุ้นเคยกับเธอเป็นอย่างดี ตัวเกมทำออกมาสนุกกว่าภาคก่อน ๆ พอสมควรเพราะการที่ Max ได้พลังใหม่ทำให้การเล่นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ในส่วนของเนื้อเรื่องจะดีไม่ดีอย่างไรคงต้องให้ผู้เล่นทุกท่านเป็นคนตัดสินเอง
สำหรับผู้เขียนขอให้คะแนนของเกม Life is Strange: Double Exposure 7/10 เพราะตัวเกมทำออกมาได้ดีมากแต่มีบางส่วนที่ไม่ชอบ แต่ไม่ขอสปอยล์เพราะอยู่ในส่วนเนื้อเรื่อง

Life is Strange: Double Exposure วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนแพลตฟอร์ม PlayStation 5, Xbox Series X/S, PC และ Nintendo Switch ภายในปี 2024

ท้ายนี้ทาง P4G ขอขอบคุณทาง Bandai Namco Entertainment สำหรับตัวเกมเพื่อการรีวิวมา ณ ที่นี้

รีวิวโดย TidGame of the Universe48(แมวหิมะน้ำตาล)

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น