6/recent/ticker-posts

รีวิว Elden Ring: Shadow of the Erdtree ส่วนเสริมการเดินทางของเหล่าผู้มัวหมอง

 

Elden Ring เป็นเรื่องราวการเดินทางของเหล่าผู้มัวหมองซึ่งก็คือผู้เล่นในดินแดนมัชฌิมา ผู้ซึ่งถูกเรียกมาเพื่อเก็บรวบรวมเศษแหวนเอลเดนและขึ้นเป็นราชาในดินแดนแห่งนี้ หลังจากเกมออกมาให้แฟนเกมได้ผจญภัยในดินแดนมิชฌิมาได้ 2 ปี ทางผู้พัฒนาก็ออก DLC Shadow of the Erdtree มาให้เหล่าผู้มัวหมองได้ท้าทายกันต่อ  โดยในส่วนเสริมนี้ตัวเกมจะส่งตัวผู้เล่นเข้าไปในดินแดนพฤกษาเงาเพื่อติดตามการเดินทางของมิเคล่าตามที่สาวกได้แนะนำกับเราในช่วงต้นก่อนจะได้เข้าไปในดินแดนพฤกษาเงา ให้เหล่าสาวกได้เข้าไปค้นหาเรื่องราวกัน

เนื้อเรื่อง (คะแนน 9/10) 

ผู้พัฒนายังคงเสน่ห์การเล่าเรื่องที่น่าสนใจชวนติดตาม ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวตามคำพูดของ Npc, ไอเทม, อาวุธ, เครื่องราง และชุดเกราะต่าง ๆ ที่เราพบเจอในเกม ส่งจิ๊กซอร์เป็นชิ้น ๆ ให้เราประติดประต่อเรื่องราวกันเอง แต่ส่งมาให้ไม่หมดยังทิ้งปริศนาไว้ให้เหล่าผู้มัวหมองได้ถกกัน จนทำให้เกิดทฤษฎีมากมายจากการตีความของแต่ล่ะคน เสมือนว่าเกมจบแต่เรายังไม่จบ นอกจากเนื้อเรื่องหลักยังมีเรื่องราวของ Npc หากเราทำเควสไปจนจบจะได้รับไอเทมเป็นสิ่งตอบแทน แต่ในความซับซ้อนของเควสย่อยต่าง ๆ ทำให้ผู้เขียนหักคะแนนตรงนี้ค่ะ เนื่องจากบางจุดผู้พัฒนาไม่ได้ทิ้งกุญแจสำคัญว่าเราต้องไปคุยกับใครต่อในจุดไหน ทำให้เราสามารถพลาดเผลอทำเควสขาดไปแบบไม่รู้ตัว ทำให้หมดโอกาสได้ไอเทมบางชิ้นไป หากผู้เล่นอยากได้ไอเทมครบทุกเควสการเล่นแค่รอบเดียวอาจจะไม่พอค่ะ และอาจต้องเสียเวลาในการหาไทม์ไลน์ของเควสย่อยจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อที่จะดำเนินเควสย่อยให้จบโดยสมบูรณ์ได้

เกมเพลย์ (คะแนน 9/10)

ในดินแดนพฤกษาเงา ผู้พัฒนาได้เพิ่มแผนที่ใหญ่อีก 1 แผนที่ มีบอสประจำโซนต่าง ๆ จำนวนไม่น้อย บอสหลายตัวถูกออกแบบให้มีท่าโจมตีดักทางเหล่าผู้เล่นชวนให้หัวร้อนได้ไม่น้อยเลย นอกจากเหล่าบอสที่เพิ่มมาเยอะ ยังมีอาวุธใหม่มา 8 ชนิด ให้เหล่าผู้เล่นได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเล่น ทั้งหมดกว่าร้อยชิ้น ที่มีจุดเด่นและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน บางชิ้นลองหยิบมาหวดบอสจากที่ติดกันหลายชั่วโมงก็สามารถเอาชนะบอสได้โดยไม่ต้องหัวร้อนเลยค่ะ ที่สำคัญอีกจุดนึงที่ผู้พัฒนาใส่เพิ่มมาให้เพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันที่ได้จากการนำไอเทมที่ได้จากการสำรวจพื้นที่ต่างๆ มาอัปเกรดเพื่อให้เราแข็งแกร่งขึ้น แต่ทางตัวเกมก็ไม่ได้บังคับในเรื่องนี้ หากผู้เล่นอยากเพิ่มความท้าทายให้ตัวเองก็เลือกที่จะไม่กดอัปเกรดให้ตัวเองได้ค่ะ ไหน ๆ ก็พูดถึงแล้วขอบ่นอะไรให้อ่านกันสักหน่อย เนื่องจากผู้เขียนค้นพบว่าการจะหาไอเทมมาอัปเกรดเลเวลความคุ้มครองให้เราไม่ใช่ง่าย ๆ เลย จะซ่อนเก่งหรือผู้เขียนตาไม่ดีก็ไม่รู้ ผู้เขียนเคลียร์บอสหลักจนเหลือแค่ 2 ตัว แต่เลเวลที่อัปเกรดมายังไม่ถึงครึ่งทาง

นอกจากนี้ส่วนที่ผู้เขียนประทับใจมากที่สุดจนไม่พูดถึงไม่ได้ คือ มิติของแผนที่ไม่ว่าจะเป็นในโลกที่เปิดกว้าง ดันเจี้ยน หรือในปราสาท มีมิติหลายชั้นให้ผู้เล่นได้สำรวจอย่างไม่น่าเบื่อเลย ในบางจุดมีแมคคานิคต้องแก้เพื่อที่จะเปิดพื้นที่ใหม่ ในบางโซนสามารถไปได้หลายเส้นทางมีการเชื่อมโยงแต่ล่ะพื้นให้มาบรรจบกัน การสำรวจจนไปเจอห้องบอสบางตัวของเราและเพื่อนอาจจะมาจากประตูคนล่ะฝั่งก็ได้นะคะ

ความยาก (คะแนน 10/10)

ผู้เขียนเคยเล่นเกมของทาง FromSoftware มาตั้งแต่สมัย PS3 ถ้าไม่นับอุปสรรคเรื่องของเฟรมเรตที่ร่วงกราวกับฮิตบ็อกที่เอาเปรียบเราในสมัยนั้น ผู้เขียนพูดเต็มปากเลยว่า DLC Shadow of the Erdtree ทำมาได้ยากจับใจจริงๆ แต่ความยากนั้นผู้เขียนมองว่าตัวเกมแฟร์กับผู้เล่น เพราะมีตัวช่วยมากมายให้เราใช้ (ถึงจะทำแมคคานิกของบอสมาดักทางเราก็เถอะ) ยิ่งถ้าเราไม่อัปเกรดระบบบัฟที่เกมเพิ่มเข้ามา ทำให้เราโดนดาเมจและใช้เวลาในการต่อสู้กับศัตรูนานกว่าปกติ เหมือนสั่งพิเศษบวกความยากขึ้นไปอีก 

ทำให้มีเหล่าผู้มัวหมองหลายท่านพอเล่นจบแบบโหมดปกติก็หาทำความท้าทายให้ตัวเอง ย้อนกลับมาเล่นใหม่แบบไม่อัปเลเวลอะไรเลย ถึงผู้เขียนจะกล่าวว่าเกมยากมากขนาดไหน แต่ก็มั่นใจว่าผู้เล่นทุกคนจะสามารถผ่านไปได้ อาจต้องศึกษาแมคคานิกของอุปกรณ์ที่เรามีในมือ จดจำการโจมตีของศัตรูแล้วหลบแบบดิจิตอล หรือถ้าเล่นคนเดียวไม่ไหวก็สามารถเรียกผู้เล่นอื่นมาช่วยในการเล่นได้ แต่การเรียกผู้เล่นอื่นมาช่วยบางครั้งพวกเขาเหล่านั้นก็ร่วมต่อสู้กับเราได้ไม่ถึงฝั่งฝัน โดนศัตรูสวบส่งกลับโลกตัวเองไปก่อนเราจะผ่าน หนีเราไปก่อนไม่พอยังจะทิ้งเลือดบอสที่ถูกคูณเพิ่มขึ้นจากการเรียกผู้เล่นอื่นเข้ามาอีก อย่างไรก็ตามสู้เค้านะเหล่าผู้มัวหมอง

ระบบออนไลน์ (คะแนน 9/10)

ตัวช่วยที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างหากผู้เล่นรู้สึกตึงมือ เล่นไม่ไหว หรือมาดินแดนนี้แบบชวนเพื่อนซื้อเกมมาเล่นด้วย สามารถเรียกเพื่อนมาช่วยสำรวจได้ โดยการใส่พาสเวิร์ดที่ตรงกัน หรือจะไม่ใส่แล้วรอกดเรียกคนจากผู้เล่นอื่นที่เค้าคอยกดสัญญาณช่วยเหลือหรือทิ้งลายเซ็นไว้รอใครซักคนกดเรียกให้ไปช่วยได้ แต่การเรียกผู้อื่นมาช่วยก็มีความเสี่ยงที่จะโดนผู้เล่นอื่นเปิดหัวแดงสุ่มเข้ามาบุกหรือถ้าเราเห็นลายเซ็นสีแดงตามพื้นก็สามารถกดเรียกผู้เล่นเหล่านั้นมาวัดฝีมือกันได้ จากที่ได้ลองระบบออนไลน์ผู้เขียนรู้สึกว่าทำมาดีขึ้นมาก เวลาเล่นกับผู้เล่นอื่นแบบสุ่มตัวเกมลื่นไหลแทบไม่มีอาการดีเลย์ให้น่าหงุดหงิด 

หากเราเปิดระบบการเล่นแบบออนไลน์เราจะเห็นข้อความตามพื้นที่ผู้เล่นอื่นทิ้งไว้ให้ บางข้อความมีสาระมีประโยชน์จริงๆ แต่บางข้อความล่อลวงผู้เล่นถึงขนาดว่าโดนส่งกลับพรไม่รู้ตัว อาจต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อดี เรื่องสุดท้ายที่ชวนเสียอารมณ์จากการเปิดระบบออนไลน์ ในบางพื้นที่ในตอนที่เราไปครั้งแรก ๆ จะไม่สามารถกดใช้อาวุธโจมตีได้ก็คิดว่า Npc ที่นี่เป็นมิตรแน่นอนแต่ระบบออนไลน์เจ้ากรรม ทำให้ผู้เล่นเห็นกองเลือดหลายจุดในพื้นที่นั้นทำให้พอจะเดาได้เลยว่าในอนาคตเราต้องมีประเด็นกับ Npc ในห้องนี้แน่นอน ได้อารมณ์แบบอยู่ ๆ ก็โดนสปอยด้วยรอยเลือดแบบงง ๆ

กราฟิกและดนตรีประกอบ (คะแนน 10/10)

กราฟิกในเกม Elden Ring:Shadow of the Erdtree ทำมาสวยงามแทบไม่มีที่ติ ความอลังการณ์ ตื่นตาตื่นใจทุกพื้นที่ที่ได้เข้าสำรวจเป็นครั้งแรก ผู้เขียนเล่นบนแพลตฟอร์ม PS5 ยังไม่เจอปัญหาเฟรมเรทตก หรือปัญหาด้านเทคนิคของเกมเลยค่ะ ติดใจอย่างเดียวศัตรูบางตัวในฉากกลืนกับบรรยากาศในแผนที่มากเกินไปจนมองไม่เห็นค่ะ บางจังหวะจอดม้าดูแผนที่อยู่ดี ๆ ศัตรูที่ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ข้าง ๆ หันมาฟาดหลังเราแบบไม่ทันตั้งตัว ส่วนดนตรีและเสียงประกอบต่างๆ ทำได้ดีไม่รู้สึกติดขัด โดยเฉพาะเพลงประกอบการต่อสู้ที่จะช่วยปลุกความฮึกเฮิมและหดหู่อย่างต่อเนื่องไปพร้อม ๆ กัน

คะแนนโดยรวมของเกม 9.4/10

ขอให้เหล่าผู้มัวหมองทุกท่านสนุกกับ Elden Ring:Shadow of the Erdtree นะคะ ผลงานที่ออกมารับรู้ได้เลยว่าผู้พัฒนาตั้งใจรังสรรค์ผลงานออกมาให้พวกเราพบประสบการณ์ที่ดีจากการเล่นเกมครั้งนี้แน่นอน

Elden Ring:Shadow of the Erdtree วางจำหน่ายแล้ววันนี้ บนแพลตฟอร์ม PlayStation4, PlayStation5, XBOX One, XBOX Series X/S และ PC (Steam)

ท้ายนี้ทางทีมงาน P4G ขอขอบคุณทาง Bandai Namco Entertainment สำหรับตัวเกมเพื่อการรีวิวมา ณ ที่นี้

รีวิว โดย Four Leaf Clover

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น