รีวิว Microsoft Flight Simulator 2024 PlayStation 5 เกมจำลองการบินที่เต็มไปด้วยความสมจริง

การกลับมาของแฟรนไชส์เกมจำลองการบินระดับตำนานในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเสนอโลกทั้งใบมาไว้ในเครื่อง PlayStation 5 เท่านั้น แต่ Microsoft Flight Simulator 2024 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่จะยกระดับตัวเองจากเกมชมวิวไปสู่เกมจำลองเส้นทางอาชีพนักบินอย่างสมบูรณ์แบบ มันคือการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ทั้งในแง่ของเนื้อหาและเทคโนโลยีที่ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของเครื่องคอนโซลยุคปัจจุบันได้อย่างเต็มที่

หลังจากที่ตัวผู้เขียนได้ใช้เวลาทดลองขับเครื่องบินหลากหลายประเภท และผ่านภารกิจมากมายบนเครื่อง PS5 ผมขอสรุปประสบการณ์ทั้งหมดออกมาเพื่อให้นักบินทุกท่านได้พิจารณาครับ

Career Mode โหมดจำลองชีวิตนักบิน

สิ่งที่โดดเด่นและเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ MSFS 2024 แตกต่างจากภาคก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิงคือการที่ตัวเกมใส่ระบบ Career Mode เข้ามาอย่างจริงจัง เราจะไม่ได้แค่เลือกเครื่องบินแล้วบินไปตามใจชอบอีกต่อไป แต่เราจะได้เริ่มต้นสร้างเส้นทางอาชีพนักบินอย่างเป็นลำดับขั้น ตั้งแต่การสอบใบอนุญาตการบินในระดับพื้นฐาน (Private Pilot License) ไปจนถึงการรับภารกิจที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

ความลึกของโหมดอาชีพมีความน่าประทับใจอย่างมาก ตัวเกมนำเสนอภารกิจที่หลากหลาย ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การขนส่งผู้โดยสารเท่านั้น แต่เราจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและต้องใช้ทักษะสูง ไม่ว่าจะเป็น

• ภารกิจดับไฟป่าทางอากาศ (Aerial Firefighting) ที่ต้องอาศัยการคำนวณทิศทางลมและความแม่นยำในการทิ้งน้ำจากความสูงที่กำหนด
• การบินกู้ภัย (Search and Rescue) ในสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งเป็นบททดสอบความสามารถในการใช้เครื่องมือและการตัดสินใจภายใต้แรงกดดัน
• การขนส่งสินค้าด้วยเฮลิคอปเตอร์ ที่มีการจำลองฟิสิกส์ของสายโยงและน้ำหนักบรรทุกอย่างละเอียด

การบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศ (Air Ambulance) ที่ต้องเร่งทำเวลาในการนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลในพื้นที่จำกัด

 

ความหลากหลายเหล่านี้ช่วยเติมเต็มความรู้สึกของการมีจุดมุ่งหมายในการบิน และสร้างแรงจูงใจให้ผู้เล่นอยากฝึกฝนทักษะเพื่อปลดล็อกเครื่องบินและภารกิจระดับสูงต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง

เกมเพลย์

ในแง่ของกลไกการเล่นทางทีมงานได้ปรับปรุงระบบฟิสิกส์การบิน (Aerodynamics) และการจำลองปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมให้มีความสมจริงยิ่งขึ้น น้ำหนักของเครื่องบิน การตอบสนองต่อแรงยก และแรงต้านอากาศถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างแม่นยำ ทำให้การบังคับเครื่องบินขนาดใหญ่ต้องอาศัยความเข้าใจและทักษะที่สูงขึ้น

ฟีเจอร์ใหม่ที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษคือความสามารถในการเดินออกจากห้องนักบินเพื่อตรวจสอบสภาพเครื่องบินก่อนขึ้นบิน (Pre-flight Check and Walkaround) ซึ่งทำให้เราได้มีปฏิสัมพันธ์กับโมเดลเครื่องบินที่มีรายละเอียดสูง และเป็นการเพิ่มความรู้สึกของการเป็นนักบินที่แท้จริง

นอกจากนี้ การเพิ่มยานพาหนะประเภทใหม่ ๆ เช่น เรือเหาะ (Airship) และบอลลูนลมร้อน เข้ามาในเกม ก็ช่วยขยายขอบเขตของประสบการณ์การบินให้กว้างขึ้น เราจะได้สัมผัสกับการบินแบบที่เน้นการลอยตัวอย่างช้าๆ เพื่อดื่มด่ำกับทิวทัศน์ ซึ่งเป็นมุมมองที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการขับเครื่องบินเจ็ตความเร็วสูง

 

ในส่วนของการใช้ศักยภาพ PlayStation 5 DualSense และ SSD เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้เวอร์ชันคอนโซลมีความน่าสนใจคือการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติเฉพาะของ PlayStation 5 ได้อย่างยอดเยี่ยม เริ่มตั้งแต่จอย DualSense ที่ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความสมจริงในการบังคับ โดยมีการจำลองแรงต้านของคันเร่ง (Adaptive Triggers) เมื่อมีการเร่งเครื่องยนต์ หรือเมื่อมีการเปลี่ยนเกียร์ในเครื่องบินบางประเภทได้อย่างยอดเยี่ยม และระบบสั่นแบบ Haptic Feedback ก็ช่วยถ่ายทอดความรู้สึกของการร่อนผ่านกระแสลม การลงจอดที่กระด้าง หรือการสั่นของเครื่องยนต์ไปยังมือของผู้เล่นได้อย่างละเอียด ยังมีในส่วนของวิทยุการบินต่าง ๆ ที่แจ้งเตือนเข้ามาเสียงวิทยุจะมาดังที่ลำโพงของ DualSense ด้วย

ทั้งนี้ความเร็วของ SSD ภายในเครื่อง PS5 มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการกับข้อมูลโลกจำลองอันมหาศาลที่ถูกสตรีมมาจาก Cloud (ระบบ Thin Client) แม้ว่าตัวเกมจะยังต้องพึ่งพาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร แต่ SSD ของ PS5 ก็ช่วยลดระยะเวลาในการโหลดฉากและการดึงข้อมูลรายละเอียดพื้นผิว (Photogrammetry) ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การเปลี่ยนผ่านระหว่างฉากหรือการบินเข้าสู่พื้นที่เมืองที่มีความซับซ้อนนั้นทำได้อย่างราบรื่นและลดอาการกระตุกที่เกิดจากการโหลดข้อมูลไม่ทันลงไปได้มาก ถึงแม้ว่าในภาพรวมจะยังมีจุดที่ต้องรอโหลดอยู่บ้างถ้าเทียบกับการโหลดเกมทั่ว ๆ ไป แต่ก็อยู่ในระดับที่ดีและรับได้

กราฟิกและการจำลองโลก

งานภาพกราฟิกใน MSFS 2024 ได้รับการยกระดับขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะในด้านการจำลองแสงเงาและระบบฤดูกาล (Seasons) ที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมโดยตรง เราสามารถสังเกตเห็นต้นไม้ที่เป็นโมเดล 3D จริงๆ และรายละเอียดพื้นผิวบนพื้นดินที่คมชัดกว่าเดิมมาก

ในด้านประสิทธิภาพบน PlayStation 5 จะถูกล็อกไว้ที่ 30 fps แต่จะมี HDR10 และกราฟิกในด้านอื่น ๆ ให้ปรับเพิ่มแทน แต่เฟรมเรตที่ได้มาจะนิ่งตลอดเวลาทำให้ไม่มีอาการกระตุกน่าหงุดหงิดระหว่างเล่นแต่อย่างใด

สรุป

Microsoft Flight Simulator 2024 คือการแสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการเป็นมากกว่าเกมจำลองการบิน มันคือประสบการณ์ที่สมจริง ลุ่มลึก และเต็มไปด้วยความท้าทายบนเครื่อง PlayStation 5

สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือการนำเสนอโหมด Career ที่มีความลึกและสร้างแรงจูงใจในการเล่นระยะยาวได้อย่างยอดเยี่ยม ผสานเข้ากับงานภาพกราฟิกที่สวยงามตระการตา และการใช้ฟีเจอร์เฉพาะของเครื่อง PS5 อย่างจอย DualSense ที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกของการเป็นนักบินได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้มันเป็นหนึ่งในเกมจำลองที่ทำได้ดีที่สุดบนแพลตฟอร์มนี้

อย่างไรก็ตามความยอดเยี่ยมเหล่านี้กลับต้องแลกมาด้วยความต้องการด้านความเสถียรของอินเทอร์เน็ตที่สูงมาก เนื่องจากระบบ Thin Client ที่พึ่งพาการสตรีมข้อมูลจาก Cloud อย่างหนัก หากผู้เล่นมีปัญหาด้านอินเตอร์เน็ต หรือในช่วงที่เซิร์ฟเวอร์มีใช้งานเยอะจากผู้เล่นอื่น ๆ อาจจะพบเจอกับปัญหาโหลดฉากไม่ทัน หรือความล่าช้าในการเข้าเกมได้

ผู้เล่นสายคอนโซลที่กำลังมองหาเกมที่นำเสนอประสบการณ์การบินที่จริงจัง ลึกซึ้ง สมจริงสุด ๆ และใช้ศักยภาพของ PS5 ได้อย่างเต็มที่ MSFS 2024 คือเกมที่ต้องมีไว้ในคลังอย่างแน่นอน

คะแนนสำหรับ MSFS 2024 สำหรับผู้ที่รักและชอบการบินที่สมจริง 10/10 อย่างไรก็ตามถึงเกมจะดีแค่ไหนก็เป็นเกมที่เฉพาะทางและเข้าใจยากมาก คะแนนสำหรับผู้เล่นทั่วไป 5/10 (ต้องใช้ทักษะและความเข้าใจในการบังคับเครื่องบินสูงเกินไป)

Microsoft Flight Simulator 2024 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนแพลตฟอร์ม PlayStation5, Xbox Series X/S และ PC (Steam)

ทีมงาน P4G ขอขอบคุณทาง Xbox (Microsoft) สำหรับตัวเกมเพื่อการรีวิวมา ณ ที่นี้

รีวิวโดย TidGame of the Universe48 (แมวหิมะน้ำตาล)