รีวิว Tales of Xillia Remastered มหาศึกเทพวิญญาณคู่ชะตาผู้กอบกู้

ย้อนกลับไปในปี 2011 ซีรีส์ JRPG ระดับตำนานอย่าง Tales of ได้ฉลองครบรอบ 15 ปี ด้วยการเปิดตัวภาคที่ 13 ที่มีชื่อว่า Tales of Xillia บนเครื่อง Play Station 3 ซึ่งเป็นการนำเสนอทิศทางใหม่ที่น่าตื่นเต้นทั้งในด้านกราฟิกและกลไกการเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ระบบสองตัวเอกเป็นครั้งแรก หลังจากห่างหายไปนานเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปี ในการนำเกมคลาสสิกภาคนี้นำกลับมาวางจำหน่ายใหม่อีกครั้งใน Tales of Xillia Remastered บนแพลตฟอร์มสมัยใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงการพอร์ตเกมแบบธรรมดา แต่เป็นการยกเครื่องใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยการปรับปรุงคุณภาพชีวิตเพื่อให้ผู้เล่นยุคปัจจุบันและเหล่าแฟน ๆ รุ่นเก่าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการปรับปรุงกราฟิกและเพิ่มฟีเจอร์ช่วยเล่น โลกแห่ง Rieze Maxia ก็มีชีวิตชีวาด้วยภาพกราฟิกที่สวยงามและเกมเพลย์ที่ลื่นไหล ทำให้ผู้เล่นสามารถสัมผัสเรื่องราวอันเข้มข้นนี้ได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมกับการรวบรวม DLC ทั้งหมดช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินและมิติในการเล่นที่หลากหลายสร้างประสบการณ์การเล่นที่คุ้มค่าในการกลับมาในครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เนื้อเรื่อง

 

เกม Tales of Xillia Remastered ผู้เล่นสามารถเลือกดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของตัวเอกหลัก 2 คน คือ Jude Mathis และ Milla Maxwell ซึ่งนำไปสู่ฉากเนื้อเรื่องและมุมมองที่แตกต่างกัน Jude Mathis ซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ ได้เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ที่ห้องทดลองของกองทัพในเมือง Fennmont โดยบังเอิญและได้พบกับ Milla Maxwell หญิงสาวลึกลับที่อ้างตัวว่าเป็น Lord of Spirits ผู้คุมวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ที่เข้ามาเพื่อทำลาย Lance of Kresnik ซึ่งเป็นอาวุธทำลายล้างที่ทรงพลังใช้พลังงาน Spyrix ที่ดูดซับพลังชีวิตวิญญาณมานา

หลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย Milla ได้สูญเสียพลังของเธอไป และ Jude ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ทั้งสองจึงต้องหลบหนีและเดินทางข้ามโลก Rieze Maxia โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อฟื้นฟูพลังของ Milla และค้นหาความจริงเบื้องหลังอาวุธร้ายแรงนั้น การผจญภัยของพวกเขาจะเต็มไปด้วยการเผชิญหน้ากับศัตรูจากหลากหลายฝ่าย

และการเข้าร่วมกลุ่มกับเพื่อนร่วมทางคนอื่น ๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีเบื้องหลังและเป้าหมายของตัวเอง เนื้อเรื่องจะเจาะลึกเข้าไปในความขัดแย้งทางการเมืองและสังคม รวมถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างมนุษย์และวิญญาณในโลกแห่ง Tales of Xillia

เกมเพลย์

เกมในซีรี่ส์Tales of มีความแตกต่างจาก JRPG ทั่วไปคือระบบการต่อสู้แบบเรียลไทม์ที่รวดเร็วและเต็มไปด้วยแอ็กชันการโจมตี และสำหรับ Tales of Xillia Remastered นั้น ระบบที่ได้รับการยกย่องคือ Dual Raid Linear Motion Battle System ที่เน้นการทำงานร่วมกันของตัวละครในปาร์ตี้ที่ผู้เล่นสามารถเคลื่อนที่ในสนามต่อสู้โจมตีได้อย่างต่อเนื่องผสมผสานกับการโจมตีด้วย Artes ทักษะพิเศษทำคอมโบได้อย่างอิสระ

จุดเด่นคือระบบ Link ที่ผู้เล่นสามารถเชื่อมโยงตัวละครสองตัวเข้าด้วยกันเพื่อใช้ท่าโจมตีพิเศษเฉพาะตัวของตัวละครที่เราเลือกจับคู่ การใช้ Link Artes จะช่วยสะสมเกจพลังงานสำหรับ Over Limit และเมื่อเข้าสู่สถานะ Over Limit ผสามารถใช้ Link Artes ได้ไม่จำกัด ทำให้สามารถสร้างความเสียหายต่อเนื่องได้อย่างรุนแรง

การสำรวจ

Tales of Xillia Remastered ในเวอร์ชั่นคอนโซล (PS5/Xbox/PC) เกมจะรันที่ 60 FPS ได้อย่างเสถียรทั้งในการต่อสู้ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญมากสำหรับระบบต่อสู้ที่รวดเร็วของซีรีส์ Tales และในฉากสำรวจก็ทำให้การเล่นไหลลื่นขึ้นมาก น่าเสียดายในเวอร์ชั่น Nintendo Switch บนฉากแผนที่เกมจะรันได้ที่ 30 FPS แต่ก็ยังดีที่ฉากต่อสู้จะรันอยู่ที่ 60 FPS

 

แผนที่ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่ในเวอร์ชั่น Remastered นี้สามารถเปิด/ปิดการเผชิญหน้ากับศัตรู แต่ศัตรูจะยังคงปรากฏตัวอยู่บนแผนที่ แต่จะไม่วิ่งไล่เข้าชนเพื่อเริ่มการต่อสู้ ผู้เล่นจึงสามารถวิ่งผ่านพื้นที่อันตรายได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องถูกขัดจังหวะ ช่วยให้การสำรวจ การวิ่งทำเควสย่อย การกลับไปยังเมือง หรือการมุ่งเน้นไปที่เนื้อเรื่องหลักเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น 

 

อีกทั้งในแผนที่ก็จะแสดงไอคอนจุดหมายของเควส ที่มีทั้งหีบสมบัติและไอเทมต่าง ๆ อยู่ตามเส้นทางทำให้ผู้เล่นไม่ต้องวิ่งสำรวจตามซอกมุมเพื่อหาของ

การพัฒนาตัวละคร

Tales of Xillia Remastered ใช้ระบบที่เรียกว่า Lilium Orb มีลักษณะเป็นตารางใยแมงมุมในการปลดล็อกเพิ่มค่าสถานะในการพัฒนาตัวละคร เมื่อตัวละครเลเวลอัปจะได้รับแต้มที่เรียกว่า GP (Growth Points) ซึ่งเป็นแต้มที่ใช้ในการปลดล็อก Node ต่าง ๆ บน Lilium Orb ที่ผู้เล่นสามารถเลือกตำแหน่งการปลดล็อกเพิ่ม Stat ได้ตามใจโดยเริ่มจากตำแหน่งด้านในสุดก่อน Node ซึ่งแต่ละจุดจะให้การอัปเกรดตัวละครที่แตกต่างกัน เช่น เพิ่มค่าสถานะ (STR, INT, HP, TP), เรียนรู้ Artes (ท่าพิเศษ) หรือ ปลดล็อกสกิลติดตัว  เพื่อเชื่อมต่อ Node ต่าง ๆ บนใยแมงมุมนี้ไปตามทิศทางที่เราต้องการ

การยกระดับกราฟิก

Tales of Xillia ในเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์นี้แน่นอนว่ากราฟิกก็ต้องถูกปรับปรุงเพิ่มความละเอียดให้สูงขึ้นรองรับกับแพลตฟอร์มสมัยใหม่ทำให้สภาพแวดล้อมและรายละเอียดของโมเดลตัวละคร 3D ถูกปรับปรุงให้มีความคมชัดและรายละเอียดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับต้นฉบับบน PS3 แม้ว่าโมเดลตัวละครจะคมชัดขึ้น แต่บางฉากหรือบางวัตถุ ที่มีเหลี่ยมมุมมาก ๆ จากยุค PS3 ก็ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง เนื่องจากไม่ได้มีการสร้างโมเดล 3D ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด 

การเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดที่สุดคือการลบฟิลเตอร์สีสีซีดที่มีอยู่ในเวอร์ชัน PS3 ออกไป ทำให้สีสันในเกมมีความสดใสและมีคอนทราสต์ที่ดีขึ้นทำให้โลกของ Rieze Maxia ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าในเวอร์ชันต้นฉบับ

 

และฉากอนิเมชันคุณภาพสูงที่สร้างโดยสตูดิโอ ufotable ซึ่งเป็นจุดเด่นของซีรีส์ ยังคงถูกนำมาใช้และแสดงผลด้วยความละเอียดที่สูงขึ้น ทำให้สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

การอัปเกรด Quality of Life

Tales of Xillia Remastered ทำให้เกมเข้าถึงง่ายขึ้นด้วยระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเซฟอัตโนมัติ, เปิด/ปิดการเผชิญหน้ากับศัตรู, ระบบต่อสู้แบบออโต้, ตำแหน่งแสดงจุดหมายของเควส, รวมไปถึงภายในแผนที่ที่มีจุดบอกหีบสมบัติชัดเจน และยังสามารถวิ่งเร็วสำรวจบนแผนที่ขนาดใหญ่ทำให้ประสบการณ์การเล่นโดยรวมสะดวกสบายขึ้นมาก

หรือระบบร้านค้า Grade Shop ที่ให้ผู้เล่นซื้อตัวช่วยเพิ่มความสะดวกต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ต้นเกม เช่น เพิ่มช่องการพกไอเทม การเพิ่ม EXP หรือเพิ่มพลังโจมตี ก็ช่วยให้การฟาร์มของและการต่อสู้สะดวกและรวดเร็วขึ้น

คอนเทนต์มาแบบจัดเต็ม

ตัวเกม ฯ มาพร้อมกับการรวม DLC ทั้งหมดที่เคยวางจำหน่าย (โดยไม่รวมคอนเทนต์คอลแลปส์) ทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงสกินตัวละครและเควสเสริมต่าง ๆ ได้ครบถ้วน ถือเป็นอีกหนึ่งความคุ้มค่าที่ทำให้เกมน่าสนใจยิ่งขึ้นเพราะผู้เล่นจะได้คอนเทนต์แบบครบถ้วนตั้งแต่ชุดนักเรียน, ชุดว่ายน้ำ, รวมไปถึงชุดจากซีรีส์อื่น ๆ ของตัวละครซึ่งสกินเหล่านี้ไม่ได้มีแค่การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ แต่บางชุดยังมีรายละเอียดของทรงผม, อุปกรณ์เสริม หรือเครื่องประดับที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวละครได้อย่างสนุกและหลากหลาย

สรุป

การกลับมาของ Tales of Xillia Remastered ไม่ใช่แค่การหวนรำลึกถึงอดีต แต่เป็นการเชิญชวนให้แฟน ๆ ได้กลับมาสัมผัสกับตำนานที่รักในรูปแบบที่ทันสมัย และเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่ง Rieze Maxia ที่มีทั้งเนื้อเรื่อง การต่อสู้ และตัวละครที่น่าประทับใจ และได้รับการปรับปรุงให้เข้ากับมาตรฐานเกมยุคใหม่ด้วยฟีเจอร์ QoL ที่จำเป็นครบถ้วน ยกระดับภาพให้คมชัดเพิ่มความสดใสของสี และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ราบรื่นและมีเสถียรภาพทำให้การต่อสู้ที่รวดเร็วตอบสนองได้เฉียบคมกว่าเวอร์ชันเดิม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนรุ่นเก่าที่ต้องการเล่นซ้ำอย่างราบรื่น และผู้เล่นรุ่นใหม่ที่ต้องการสัมผัสหนึ่งในภาคที่สำคัญของซีรีส์ Tales of ตกหล่นหรือผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี่

ข้อดี
-    กราฟิกรีมาสเตอร์สวยสดใส อนิเมชั่นลื่นไหล
-    เนื้อเรื่องเข้มข้นระบบต่อสู้ท้าทาย ผสมกลยุทธ์และความรวดเร็วได้อย่างลงตัว
-    DLC รวมครบแทบทุกชุดเพิ่มความสนุกและความหลากหลายในการเล่น
-    Quality of Life ทำให้เข้าถึงเกมง่ายขึ้น ทั้งเซฟอัตโนมัติ ปิดการพบศัตรู และระบบต่อสู้แบบออโต้

ข้อเสีย

-    เฟรมเรตบน Nintendo Switch ถูกจำกัดอยู่ที่ 30 FPS ทำให้การเล่นรู้สึกไม่ลื่นไหลและตอบสนองได้ช้าลง เมื่อเทียบกับเวอร์ชันอื่น (PS5/Xbox/PC)
-    เนื่องจากไม่ได้ปั้นโมเดลใหม่จึงทำให้กราฟิกยังคงมีความเหลี่ยมเป็นไปตามกราฟิกในยุคสมัยนั้น 

คะแนนรวม 7/10

Tales of Xillia Remastered วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนแพลตฟอร์ม PlayStation5, Xbox Series X/S, Switch และ PC (Steam)

ทีมงาน P4G ขอขอบคุณทาง Bandai Namco Entertainment สำหรับตัวเกมเพื่อการรีวิวมา ณ ที่นี่

REVIEW by LUCIFERLOCKHART