6/recent/ticker-posts

รีวิว Avatar: Frontiers of Pandora หวนคืนสู่วิถีชาว Na'vi และผจญภัยบน Pandora

Avatar: Frontiers of Pandora เป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตและความเป็นอยู่คู่ขนานไปกับจักรวาลหนัง Avatar ของ James Cameron โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กของชาว Na’vi จากเผ่า Sarentu ที่ถูกมนุษย์จับตัวไปเลี้ยงโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้กลุ่มเด็กชาว Na’vi กลายเป็นอาวุธของพวกเขาในอนาคตซึ่งจะเกิดขึ้น 8 ปีก่อนเหตุการณ์ในหนัง Avatar และตัวละครหลักเราได้หลับไปในเหตุการณ์นี้ เมื่อ Toruk Makto และชาว Omatokaya ได้พากันลุกขึ้นเพื่อต่อต้านพวก RDA ทำให้ทีมกู้ภัยได้กลับเข้ามาช่วยเราที่หลับไปนาน 8 ปีเพื่อออกมาผจญภัยและออกเดินทางไปในโลกกว้างใหญ่บนดาว Pandora เพื่อค้นหาความหมายที่แท้จริงของการเป็นชาว Na’vi และปกป้องดาวบ้านเกิดของตนจากการคุกคามของมนุษย์เพื่อลดมลพิษทางอากาศการปนเปื้อนต่างๆคืนพื้นที่คืนความอุดมสมบูรณ์สู่ธรรมชาติ


ระบบการเล่น

Avatar: Frontiers of Pandara เป็นเกมรูปแบบ FPS Open World ขนาดใหญ่ที่ผู้เล่นสามารถเดินไปจุดใดของเกมก่อนก็ได้และสามารถสำรวจสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ โดยลำดับขั้นของเนื้อเรื่องจะถูกกำหนดเป็นรูปแบบเควสหลัก จึงทำให้เราต้องดำเนินเนื้อเรื่องหลักไปถึงจุดหนึ่งก่อนเพื่อที่จะปลดล็อกเควสย่อยอื่น ๆ เพื่อทำเพิ่ม รูปแบบของเควสก็จะมีหลายลักษณะต่างกันออกไปเช่น เควสสำรวจ เควสหาของ เควสล่าสัตว์ เควสแกะรอย เควสทั้งหลายทำออกมาได้ค่อนข้างดี แต่ยังมีข้อเสียอยู่ในเรื่องของระบบไกด์ต่าง ๆ ของเกม เนื่องจากตัวเควสบางจุดมีความซับซ้อนพอสมควรแต่การนำทางของตัวเกมกลับทำได้ไม่ค่อยดีจึงทำให้เกิดความสับสนในการทำเควสขึ้นได้ง่าย ๆ เช่น เควสแกะรอย ตัวเกมจะให้เรานำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเบาะแสมาเชื่อมโยงกันให้ถูก เช่น มีร่องรอยของการโดนยิงด้วยธนูเราจะต้องกดคุยกับร่องรอยนั้นก่อนเพื่อไปหาอะไรที่เกี่ยวกับธนูแล้วคุยอีกครั้ง ถ้ากดผิดที่เควสก็จะไม่เดินต่อ โดยเกมแนวนี้ทั่วไปเราแค่กดที่เบาะแสต่าง ๆเควสก็จะดำเนินต่อทันที แต่ระบบต่าง ๆ มันเข้าใจได้ด้วยการที่เราเป็นชาว Na’vi จึงทำให้ระบบการค้นหาต่าง ๆ เป็นแบบชาวป่าชาวเขาไม่ได้มีการแนะนำหรืออุปกรณ์ช่วยใด ๆ




 

ไอเทมและของสวมใส่

ตัวเกมมีรูปแบบการเล่นแบบเกม RPG ที่ให้ผู้เล่นสามารถหาของหรือสร้างอาวุธและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความรุนแรงในการโจมตี พลังชีวิต รวมถึงค่าสถานะต่าง ๆ โดยผู้เล่นสามารถสร้างไอเทมในระดับที่สูงขึ้นได้ด้วยการใช้วัตถุดิบในขั้นที่สูงกว่าจะทำให้เราได้ค่าพลังต่าง ๆ ที่มากกว่าการใช้ของในระดับทั่วไป ดังนั้นเวลาเราจะเก็บไอเทมหรือล่าสัตว์ต่าง ๆ ภายในเกมจึงต้องใช้ทักษะและวิธีการเก็บในช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย กระสุนหลักและกระสุนรูปแบบต่าง ๆ ของอาวุธเราก็จะได้จากการเปิดกล่องกระสุนทั่วไปภายในเกมหรือนำวัตถุดิบต่างๆตามแผนที่มาสร้าง และตัวละครเรายังมีระดับความหิวที่ส่งผลต่อระบบหลายๆอย่างของตัวละครเรา ทำให้เราจำเป็นจะต้องหาของกินติดตัวไว้เรื่อยๆเมื่อตัวละครเราหิว โดยอาหารจะมีอยู่หลากหลายรูปแบบ เช่น ผลไม้ หรือเนื้อเรื่องสัตว์ต่างๆแม้กระทั่งอาหารสำเร็จรูปของมนุษย์หรือการนำเอาวัตถุดิบต่างๆไปปรุงอาหารจะทำให้ได้อาหารที่เพิ่มสถานะพิเศษต่างๆเป็นเวลาชั่วคราวใช้อีกด้วยจึงทำให้อาการภายในเกมนี้สำคัญกับเราเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับของสวมใส่การที่เราเก็บวัตถุดิบในระดับที่สูงขึ้นมาปรุงอาหารก็ทำให้เราได้อาหารที่คุณภาพสูงขึ้นด้วยเช่นกัน




 

สกิลต่าง ๆ ภายในเกม


ระบบสกิลจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ สกิลทั่วไปที่เป็นการเก็บแต้มสกิลแล้วนำมาอัปตามสายต่าง ๆ เช่น สกิลสาย Survivor จะเป็นสกิลที่เน้นไปในทางเอาตัวรอดเพิ่มเลือด เพิ่มปริมาณยาและค่าพลังป้องกันสถานะผิดปกติต่าง ๆ ถ้าเราอัปสกิลประจำสายครบจะเป็นการปลดล็อกสกิลพิเศษของสายนั้น ๆ อาทิ สาย Survivor หรือสกิลสาย Hunter จะเป็นสายสกิลที่เน้นไปในด้านการล่า เช่น การย่องเบา เดินและวิ่งไม่มีเสียงฝีเท้าทำให้ง่ายต่อการลอบเร้นมากขึ้น  หรือทำดาเมจพิเศษต่อสัตว์ป่าเพื่อให้ง่ายต่อการล่า เมื่ออัปครบเราจะได้สกิล Second Wind ซึ่งเป็นสกิลชุบชีวิตให้เราเมื่อเราตายและยังเหลือปริมาณ Energy มากกว่า 50% จากปริมาณทั้งหมด และ Ancestor Skills ซึ่งเป็นสกิลติดตัวในรูปแบบสกิลพิเศษที่เป็นเหมือนการปลดล็อกสัญชาตญาณของชาว Na’vi โดยวิธีการปลดล็อก Ancestor Skills เพิ่มผู้เล่นจะต้องเดินทางไปยังจุดต่างๆภายในเกมเพื่อทำการ Tsaheylu หรือการเชื่อมถึงกันกับผืนแผ่นดินเพื่อสื่อสารกับ Eywa และดูความทรงจำของบรรพบุรุษเพื่อปลดล็อคสกิลต่างๆที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตระหว่างเล่นง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น





ภาพรวมของตัวเกมถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดีในหลาย ๆ ด้านมีรูปแบบการเล่นคล้ายคลึงกับเกม Far Cry Primal แต่ก็มีความต่างออกไปในเรื่องของบรรยากาศและวิธีการเล่นที่มีรูปแบบเฉพาะกับชาว Na’vi ทำให้ได้บรรยากาศการเล่นใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนในเกม Open World การเดินทางภายในเกมก็ถือว่าสะดวกสบายด้วยจุด Fast Travel ที่มีอยู่เยอะมากหรือจะเดินทางด้วย Ikran ก็ทำให้เดินทางขึ้นที่สูงง่ายขึ้นไปอีก ตัวเกมยังรันได้เป็นอย่างดีบน Playstation 5 ถึงแม้ว่าจะมีการเรนเดอร์ภาพระยะไกลได้ไม่ดีมากแต่ก็ไม่มีปัญหากับการเล่นตัวเกมจะมีให้ปรับ 2 โหมดโดยจะเป็นโหมดเน้นกราฟิกและโหมดเน้นเฟรมเรต ทั้งนี้เราขอให้คะแนนความประทับใจของเกม Avatar: Frontiers of Pandora ไว้ที่ 7/10 คะแนน (การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้รีวิว)

Avatar: Frontiers of Pandora วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่องเล่น PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC


 

ท้ายนี้ทีมงาน P4G ขอขอบคุณทาง Ubisoft สำหรับตัวเกมเพื่อการรีวิวมา ณ ที่นี่

รีวิวโดย TidGame of the Universe48(แมวหิมะน้ำตาล)

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น