6/recent/ticker-posts

รีวิว Unicorn Overlord รวมทัพองค์ชาย กู้บัลลังก์

 

หากพูดถึงเกมเหล่านี้ Odin Sphere, Muramasa: the Demon Blade, Dragon’s Crown และ 13 Sentinels: Aegis Rim ใช่ละครับผมกำลังพูดถึงผู้พัฒนาจากค่าย Vanillaware คนที่อยู่ในวงการเกมมายาวนานคงไม่มีใครไม่รู้จักผู้พัฒนาค่ายนี้แน่นอน ผลงานรังสรรค์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา ถึงจะไม่ได้มากมายแต่จุดเด่นตรงงานภาพนั้น ทำให้ยังไงใครต่อใครก็ต้องคิดถึง เพราะกราฟิกสไตล์นี้ในท้องตลาดไม่ได้มีมากมายหลากหลายนัก 

ทั้งนี้ Project Unicorn Overlord นั้นได้พัฒนามาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี หลังจากที่ได้เสร็จสิ้นจาก Project ของ Dragon's Crownd ตัวเกมก็ถูกซุ่มพัฒนามาโดยตลอดควบคู่กับ Project อื่น ๆ ซึ่งตัวเกมฯ จะดูละม้ายคล้ายกับเกม Grand Knight History ที่เป็นเกมแนว Turn-Based Tactical RPG แต่ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจาก Unicorn Overlord นั้นเป็นเกมวางแผนการรบแบบ Real-time เต็มรูปแบบ ที่เรียกติดปากกันนั้นก็คือ RTS (Real-time strategy) ที่ปัจจุบันแกมแนวนี้ในท้องตลาดนั้นได้หายไปเป็นอย่างมาก ตัวเกมนำเสนอเรื่องราวการทวงแผ่นดินคืน รูปแบบเกมเพลย์ผสมผสาน บนแผนที่โลกกว้างขนาดใหญ่ ออกเดินทางตามหาพรรคพวกและสร้างมิตรภาพผ่านงานภาพอาร์ท 2D side-scrolling และบทเพลงที่ทรงพลังคู่บุญ Basiscape เป็นทีมงานทำเพลงประกอบให้กับเกมทุกเกมของบริษัทตั้งแต่ก่อตั้ง Vanillaware

เนื้อเรื่อง

เรื่องราวเริ่มขึ้นโดย Valmore ผู้ซึ่งเป็นนายพลแห่งอาณาจักร Cornia ได้ก่อกบฏยึดอำนาจขึ้น Queen Ilenia จึงได้ฝากฝังให้ Josef องครักษ์ประจำราชวงศ์ ให้พาเจ้าชาย Alain หลบหนีไป พร้อมทั้งได้ฝากแหวนยูนิคอร์นไว้กับ Josef ซึ่งเธอเน้นย้ำถึงความสำคัญแม้ว่าจะไม่ได้อธิบายว่าทำไมก็ตาม ว่าเมื่อถึงเวลาให้มอบแก่ลูกชายของเธอ สิบปีผ่านไปเจ้าชาย Alain ยังคงอยู่บนเกาะ Palevia โดยได้รับการฝึกฝนจาก Josef อยู่บ่อยครั้ง ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Josef ได้รวบรวมกองทัพปลดปล่อยโดยมีเป้าหมายในการยึดคืนทวีปจาก Valmore (ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น Galerius ในภายหลัง) เมื่อ Valmor ยึดอำนาจทั้งทวีปได้สำเร็จ จึงเปลี่ยนชื่อเป็นจักรวรรดิ Zenoiran และในเวลาต่อมากองทหารของ Zenoiran ก็บุกมาถึงเกาะ Palevia Alain และเพื่อนๆ ของเขา Lex, Scarlett และ Chloe ก็ออกปฏิบัติการเพื่อทวงคืนดินแดนและคืนสถานะ Alain ให้อยู่ในตำแหน่งราชวงศ์ที่เป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของเขา


ทวีปในเกมนั้นมีชื่อว่า Fevrith เป็นดินแดนอันเป็นที่ตั้งของ 5 อาณาจักร แบ่งออกเป็น 5 พื้นที่ ได้แก่ Drakenhold อาณาจักรแห่งมังกรไฟ Elheim อาณาจักรแห่งพฤกษา Bastorias อาณาจักรแห่งสัตว์อสูร Albion อาณาจักรแห่งเกาะศักดิ์สิทธิ์ และ อาณาจักร Cornia ที่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรทั้งหมด ซึ่งแต่ละอาณาจักรก็จะมีพรรคพวกให้เราได้ตามหาเข้าร่วมทีมมากกว่า 60 ตัวละคร ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป แต่จะมีแค่ 4 เผ่าพันธุ์เท่านั้น ได้แก่ Humans มนุษย์ Elven เอลฟ์ Bestral ครึ่งคนครึ่งสัตว์ และ Angel เผ่าพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ พรรคพวกส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมทีมนั้นจะได้มาจากการทำ Quest และมีตัวเลือกให้เราได้ตัดสินใจว่าจะรับเข้าร่วมทีมหรือไม่ บางทีก็เป็นศัตรูที่ไว้ชีวิตถึงได้มา จากหลากหลายเหตุการณ์ที่ผู้เล่นจะได้ค้นพบตัวละครใหม่ ๆ ในการดำเนินเรื่องราว

การทวงคืนดินแดนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเกมนี้ เพราะมันจะส่งผลถึงเลเวลโลกที่เรียกว่าระบบ “Renown” ทำหน้าที่เป็นเพดานพัฒนาความก้าวหน้าของผู้เล่นในการปลดล็อกเงื่อนไขการอัพเกรด ไม่ว่าจะเพิ่มสมาชิกในทีม หรือ การเปลี่ยน Classes การกระทำต่างๆ ล้วนส่งผลต่อความก้าวหน้าของผู้เล่น ไม่ว่าจะรวบรวมทรัพยากรเพื่ออัปเกรดสิ่งปลูกสร้าง การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร และแต่งงานในที่สุด คือประสบการณ์ที่เกมมอบให้กับผู้เล่นได้รับ

เกมเพลย์ Explore

ในเกม Unicorn Overlord ผู้เล่นจะได้บังคับตัวละครบนแผนที่โลกกว้างที่เรียกว่า Overworld ดำเนินเรื่องราวได้อิสระไม่ว่าจะเล่นเนื้อเรื่องหลัก หรือทำ Side Quest ตามเก็บวัตถุดิบตามแผนที่เพื่อใช้ในการพัฒนาเมือง ซื้ออาวุธ ชุดเกราะ และเครื่องประดับ ตามรูปแบบเกมแนว RPG ที่ผู้เล่นจะต้องดำเนินเรื่องราว เก็บเลเวล สะสมทรัพยากรต่าง ๆ ตัวเกมมีจุดเด่นที่ผู่เล่นสามารถตามหาเพื่อนเข้าร่วมทีมได้มากมาย คลาสที่แตกต่าง อัปเกรดหน่วยรบได้ตามความก้าวหน้าของผู้เล่น โดยใช้แต้ม “Honor” ที่จะได้มาจากการพัฒนาเมือง ส่งของ หรือทำ Quest ต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาสายสัมพันธ์ก็ยังได้แต้มตรงนี้มาอีกด้วย


ทั้งนี้ภายในแต่ละพื้นที่ที่เราทำการยึดแล้วผู้เล่นจะสามารถ Fast travel ไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อิสระ และยังสามารถประลองฝีมือกับทหารในพื้นที่โดยตัดสินกันใน Turn เดียว ถ้าชนะได้ก็จะได้รับเงินตอบแทน ส่วนพื้นที่ที่เรายังไม่ได้ทำการยึดครองนั้นเมื่อเราเข้าไปเผชิญหน้าทหารพวกนี้ ก็จะเข้าโจมทีทันที ถ้าชนะใน Turn เดียวได้ ก็จะได้รับแต้ม “Honor” ศัตรูพวกนี้ก็จะหายไปบนแผนที่จากเขตของ Quest นั้น ๆ แต่ถ้าหากเราสามารถจบ Quest ในพื้นที่ ในตอนท้ายเราจะได้รับแต้ม “Honor” รวดเดียวจากศัตรูที่เหลืออยู่บนแผนที่ ซึ่งในช่วงต้นเกมนั้น ค่อนข้างยากที่ผู้เล่นจะสามารถชนะใน Turn เดียวได้ แต่เราสามารถหาทหารรับจ้างเพื่อมาใช้งานสู้กับศัตรูที่แพ้ทางกันก่อนที่เราจะได้เพื่อนที่เป็นคลาสนั้น ๆ เข้ามาต่อสู้ก่อนได้ เพราะฉะนั้นจึงอยากให้ผู้เล่นเรียนรู้การแพ้ชนะทางของคลาสต่าง ๆ จะทำให้ความยากของเกมลดลงเป็นอย่างมาก

เกมเพลย์ Battle

สำหรับระบบการต่อสู้ใน Unicorn Overlord นั้นจะเป็นแนว RTS (Real-time strategy) แบบ Tactical RPG เต็มรูปแบบ ตัวเกมถูกผสมผสานการเล่นมาเป็นอย่างดี ซึ่งแต่ละตัวละครจะมีระบบ Action Points (AP) (เพชรแดง) และ Passive Points (PP) (เพชรฟ้า) มาจำกัดการกระทำเราไว้ โดย (AP) จะเป็นสกิลสำหรับโจมตี และ (PP) จะเป็นสกิลสำหรับตั้งรับ ซึ่งแต่ละสกิลจะสามารถตั้งค่าในเชิงลึกลงไปได้อีกว่าจะให้โจมตีคลาสใดก่อน หรือฮีลเพิ่มเลือดเมื่อใครเสียเลือดมากสุด ของสวมใส่ก็เช่นกันสามารถติดตั้งเพิ่ม (AP) หรือ (PP) ทำให้เราได้เปรียบในการโจมตี หรือตั้งรับได้มากขึ้น

ในการต่อสู้การส่งแต่ละหน่วยลงสู่สนามนั้นจะต้องใช้  Valor Point ในการส่งแต่ละหน่วยออกไป โดย Valor Point ต่อไปเรียก (VP) เราจะสามารถหาได้จากการฆ่าศัตรู หรือ ยึดป้อมก็จะได้มาอย่างมากมาย อีกทั้งยังสามารถใช้ (VP) ในการใช้สกิลพิเศษบนแผ่นที่ อย่างเช่น ใช้โจรขโมยเงิน ใช้ 1 (VP) , ธนูโจมตีหมู่ ใช้ 2 (VP) , หรือสกิลพิเศษของ Alain เพิ่ม EXP ใช้ 2 (VP) เป็นต้น และในการเข้าประทะแต่ละครั้งจะเสีย Turn ที่เห็นเป็นตัวเลขประจำแต่ละหน่วย ฝ่ายใดที่พ่ายแพ้ใน Turn นั้น จะกระเด็นและเข้าสู่สภาวะหยุดชะงักไม่สามารถเคลื่อนไหว ซึ่งฝ่ายที่แพ้จะมีเวลานับถอยหลังถึงจะสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง แต่ก็จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเป็นอย่างมาก เพราะจะไม่สามารถหลบหนีจากศัตรูที่เข้าประชิดได้ 

สำหรับระบบ Turn ในเกมนี้นั้น หากหมดลงจนเหลือศูนย์ก็จะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จำเป็นต้องใช้กำสั่ง Rest ในการฟื้นคืนค่า Turn ขึ้นมา แนะนำให้ใช้งานในพื้นที่ปลอดภัยเพราะเราจะไม่สามารถโจมตีตอบโต้อะไรได้เลย ต่างกับตอนที่ Turn หมดจนเหลือศูนย์ ที่ยังสามารถโจมตีตอบโต้ได้ แต่ถ้าหากมีหน่วยอื่นอยู่ใกล้ๆ สามารถสลับเป็นอีกหน่วยเข้าต่อสู้แทนได้ก่อนที่การ Battle นั้นจะเริ่มขึ้น แต่ในการใช้คำสั่ง Rest นั้นจะกินเวลานาน ทำให้โอกาสที่จะมีหน่วยอื่นอยู่ใกล้ๆ เป็นไปได้ยาก เพราะหน่วยอื่นก็ต้องเคลื่อนไหวต่อสู้อยู่ตลอด จึงต้องทำให้วางแผนให้ดีในการที่จะให้หน่วยใดได้ Rest ก่อน หากยึดป้อมมาได้เราสามารถใช้ในการฟื้นคืน Turn ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งใน Quest ยังมีเวลากำกับอีกด้วยจึงทำให้ต้องคิดไวทำไว

“หากศัตรูอยู่ในป้อมแล้วเราเป็นฝ่ายชนะใน Turn นั้นๆ ฝ่ายเราจะเป็นฝ่ายที่จะกระเด็นเสียเอง และศัตรูจะไม่อยู่ในสถานะหยุดชะงัก เพราะคุณสมบัตรของป้อมนั้น จะทำหน้าที่คอยเติมพลังงานต่างๆ กล่าวคือได้เปรียบกว่านั่นเอง”

คลาส และ การปรับแต่งยุทธวิธี



แน่นอนว่าเมื่อเป็นเกมแนว Tactical RPG การวางแผนเข้าต่อสู้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีไปตามสถานการณ์ และในแต่ละคลาสนั้นจะมีการแพ้ทางกัน จึงทำให้ในหน่วยรบ ต้องมีการจัดการวางแผนให้เหมาะสมกับศัตรูตรงหน้า แต่การปรับเปลี่ยนไปมาของเพื่อนร่วมทีมนั้นจะส่งผลต่อความก้าวหน้าของระบบสายสัมพันธ์ และในแต่ละหน่วยนั้นจะต้องเลือกตัวละครตัวนึงให้เป็นผู้นำทีม ซึ่งจะได้รับผลรับพิเศษที่เรียกว่า ”Leader Effect” เช่น Alain เมื่อกำจัดศัตรูจะได้รับ (VP) มากขึ้นเป็นต้น

คลาสต่างๆ ภายในเกมนั้นจะมีให้เลือกใช้อยู่มากมาย ในระดับเริ่มต้น Base Classes มีมากถึง 19 Classes เข้าไปแล้ว ได้แก่ Cleric / Fighter / Gladiator / Gryphon Knight / Hoplite / Housecarl / Hunter / Knight / Lord / Priestess / Radiant Knight / Sellsword / Shaman / Soldier / Swordfighter / Thief / Warrior / Witch / Wizard

เมื่อเลื่อนระดับ “Renown” ไปถึง Rank B ก็จะสามารถเ Promote เป็น Advanced Classes ได้อีก 11 Classes ได้แก่ Dark Lord / Doom Knight / Feathersword / Great Knight / Legionnaire / Paladin / Sergeant / Sorceress / Valkyria / Vanguard / Warlock

Restaurant

จุดเด่นในเกมนี้ ที่จะไม่หยิบมาพูดเลยเสียไม่ได้ นั่นก็คือระบบร้านอาหาร ดั่งเช่นเกมอื่น ๆ ของค่ายนี้ที่ต้องสอดแทรกภาพวาดอาหารที่แสนเพลินตา  แต่เมนูอาหารเหล่านี้นั้นไม่ได้นำมาใช้บัฟตัวละครดั่งเช่นเกมอื่นๆ แต่ใช้สำหรับสร้างสัมพันธ์กับตัวละครต่าง ๆ ได้อย่างชาญฉลาด และแต่ละเมนูนั้นก็จะระบุไว้เลยว่ารับประทานได้พร้อมกันกี่คน ยิ่งน้อยคนค่าความสัมพันธ์ยิ่งได้มากกว่า ทั้งนี้ร้านอาหารนั้นก็ต้องพัฒนาเมืองเสียก่อนถึงจะมีร้านอาหารเปิดให้ใช้งาน

กราฟิก

จะไม่หยิบเรื่องนี้มาพูดเลยก็คงไม่ได้ เพราะในท้องตลาดเกมที่นำเสนองานภาพแบบนี้ไม่ได้มีมากมายนัก ผลงานล่าสุดก็เช่นกันยังคงน่าประทับใจเช่นเดิมกับงานภาพวาดด้วยมือ 2.5 มิติ ที่พิถีพิถันถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม การออกแบบตัวละครที่มีความโดดเด่น อีกทั้งยังมีรายละเอียดสูง ฉากหลังเป็นภาพวาดสลับเคลื่อนไหวมีความเป็นไดนามิคที่สวยงาม

ความคิดเห็นทีมงาน

เนื่องจากตัวเกม ฯ มีความลึกในการเล่นสูงมาก ทางทีมงานจึงหยิบส่วนที่เป็นจุดเด่นและน่าสนใจมารีวิว ซึ่งตัวเกมจะให้ผู้เล่นเริ่มต้นจากหน่วยเล็ก ๆ จนกลายเป็นทัพใหญ่ในที่สุด การที่ปรับรูปแบบการเล่นมาเป็นแบบ Auto Play เต็มรูปแบบนั้น จึงลดภาระของผู้เล่นเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวเกมมีตัวละครหลากหลาย งานอาร์ทสวยงามตามสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ ที่ผู้เล่นมือใหม่ หรือมือเก่าจะรู้สึกหลงใหลได้ไม่ยากนัก ระบบการเล่นผสมผสานทั้งหมดไม่ตื้นเขินแต่ลุ่มลึกคือเสน่ห์ของเกมนี้จริง ๆ ทั้งนี้หากทางผู้รีวิวมีการตกหล่นหรือผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
 

ข้อดี
-    รูปแบบการเล่นผสมผสานมาเป็นอย่างดี ต่อให้ไม่เคยเล่นเกมแนววางแผนการรบก็เข้าใจได้ไม่ยากนัก
-    แผนที่ขนาดใหญ่ให้ออกเดินทางตามหาพรรคพวกที่มีมากกว่า 60 คน
-    กราฟิกน่าหลงใหลดึงดูดเช่นเดิม
-    เสียงเพลงทรงพลัง งานพากย์ตัวละครต่าง ๆ ที่ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย
-    น่าเสียดายที่ของสวมใส่ในเกมทุกชิ้น จะไม่เปลี่ยนไปตามที่เราติดตั้ง อย่างน้อยก็น่าจะให้ดาบ หรือ โล่เปลี่ยนรูปแบบได้บ้าง

คะแนนรวม 9.5/10
REVIEW by LUCIFER LOCKHART

ท้ายนี้ทางทีมงาน P4G ขอขอบคุณทาง SEGA และ ATLUS สำหรับตัวเกมเพื่อการรีวิวมา ณ ที่นี่

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น